Forex เบื้องต้น
RSI Indicator ใช้งานอย่างไรให้เห็นกำไรจริง
Table of Contents
RSI Indicator ใช้งานอย่างไรให้เห็นกำไรจริง
การใช้งาน RSI (Relative Strength Index) ให้ได้กำไรจริง ต้องเข้าใจหลักการทำงานของมัน และนำไปใช้ร่วมกับกลยุทธ์ที่เหมาะสม โดยไม่ใช้แบบโดดเดี่ยวเกินไป
1. เข้าใจค่า RSI ก่อน
RSI เป็นอินดิเคเตอร์วัด “ความแข็งแกร่งของราคา” หรือ “โมเมนตัม” ของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีค่าระหว่าง 0 ถึง 100
- RSI มากกว่า 70 = เข้าสู่เขต Overbought (ราคาขึ้นแรงเกินไป มีแนวโน้มจะพักหรือลง)
- RSI น้อยกว่า 30 = เข้าสู่เขต Oversold (ราคาลงแรงเกินไป มีแนวโน้มจะดีดกลับ)
2. เทคนิคการใช้งาน RSI ให้แม่นยำขึ้น
เทคนิคที่ 1: รอสัญญาณกลับตัวในเขต Overbought/Oversold
- ซื้อเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 แล้วเริ่มดีดกลับขึ้น
- ขายเมื่อ RSI สูงกว่า 70 แล้วเริ่มหักหัวลง
อย่ารีบซื้อหรือขายทันทีที่ RSI เข้าสู่โซน ให้รอยืนยันจากรูปแบบแท่งเทียน เช่น Engulfing หรือ Pin Bar
เทคนิคที่ 2: ใช้ RSI Divergence
Divergence คือการที่ราคากับ RSI เคลื่อนไหวสวนทางกัน
- Bullish Divergence: ราคาทำ Low ใหม่ แต่ RSI ไม่ทำ Low ใหม่ → มีโอกาสกลับตัวขึ้น
- Bearish Divergence: ราคาทำ High ใหม่ แต่ RSI ไม่ทำ High ใหม่ → มีโอกาสกลับตัวลง
Divergence เป็นสัญญาณที่ค่อนข้างแม่น โดยเฉพาะเมื่อเกิดในโซน Overbought หรือ Oversold
เทคนิคที่ 3: ใช้ RSI กับแนวโน้มหลัก
- ในขาขึ้น: RSI มักไม่ลงถึง 30 แต่จะเด้งขึ้นจากโซน 40–50
- ในขาลง: RSI มักไม่ขึ้นถึง 70 แต่จะหักหัวจากโซน 50–60
อย่าใช้ RSI สวนเทรนด์ ให้ใช้เพื่อหาจุดเข้าในทิศทางของแนวโน้มหลัก
3. ผสมผสานกับ Price Action หรือแนวรับแนวต้าน
หาก RSI ให้สัญญาณพร้อมกับปัจจัยอื่น เช่น
- แนวรับแนวต้านที่ชัดเจน
- รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว
- เทรนด์ไลน์
จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าเทรด และลดความเสี่ยงจากสัญญาณหลอก
4. ใช้ร่วมกับการบริหารความเสี่ยง
- วาง Stop Loss ให้ดี
- ใช้ Risk:Reward อย่างน้อย 1:2
- เลือก Timeframe ที่เหมาะสม เช่น H1, H4 หรือ Daily เพื่อกรองสัญญาณหลอก