สอบกองทุน forex คืออะไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง

อยากเติบโตในวงการเทรด Forex ต้องไม่พลาด ‘การสอบกองทุน Forex’ เพื่อรับเงินทุนมาเทรดสร้างกำไรมหาศาลกว่าที่ผ่านมา แต่การสอบกองทุน forex คืออะไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง บทความนี้จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ สอบกองทุน Forex เพื่อโกยเงินเข้ากระเป๋ากัน

สอบกองทุน forex คืออะไร

หากจะอธิบายให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ ว่า การสอบกองทุนForex คืออะไร คงต้องย้อนกลับไปในเรื่องของการทำอาชีพเกี่ยวกับการเทรด ถ้าเป็นนักลงทุนเอง จ่ายเอง เทรดเอง คงไม่ต้องสอบอะไร เพราะถ้าเกิดกรณีแย่สุดบริหารพอร์ตไม่รอดก็เสียหายแค่เงินของตัวเอง แต่ถ้าจะทำอาชีพด้านการเทรดรับรายได้และสร้างกำไรเพิ่มขึ้นจากเงินของคนอื่น

ซึ่งแน่นอนว่า ประเทศไทยก็ยังห้ามไม่ให้คนธรรมดาทำอาชีพรับเทรดจากเงินคนอื่นอยู่ โดยอาจโดนข้อหา

ระดมทุนอ้างว่าจะจ่ายผลตอบแทนในอัตราที่สูงลักษณะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

ตามมาตรา ๔ กฎหมายพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗

ส่วนการสอบกองทุนforex ก็คือ การสอบตามเว็บจัดสรรเงินลงทุนให้แก่นักเทรด Forex ที่มีความสามารถในระดับที่พวกเขาต้องการ เมื่อเขาวัดความสามารถแล้วอยู่ในระดับที่ได้มาตรฐานพวกเขาจะมอบเงินทุนจากแหล่งทุนมาเทรดสร้างกำไรได้แบบขาวสะอาดตามจำนวนที่เหมาะสม โดยไม่ต้องอาศัยการระดมทุนแต่อย่างใด เพื่อก้าวเข้ามาเป็น Prop Trade (Proprietary Trader) นักเทรดซื้อขายสินทรัพย์แบบไม่จำเป็นต้องใช้ทุนตัวเอง

และ หากเทรดจนได้กำไร ในส่วนของกำไรนี้ล่ะที่จะมีการแบ่งค่าคอมมิชชั่นมาเป็นค่าแรงเข้ากระเป๋าคุณสร้างรายได้ต่อเดือนได้หลักหมื่นถึงหลักล้านต่อเดือนเลยทีเดียว

สรุปง่ายๆ ก็คือ การสอบกองทุนforex เป็นการสอบเพื่อขอทุนมาเทรดแล้วหากมีกำไรก็สามารถเก็บรายได้จากคอมมิชชั่นได้นั่นเอง

ความเป็นมาของการสอบกองทุน Forex

การสอบกองทุนForex ถูกตั้งมาด้วยแนวความคิดที่ว่า ก้าวข้ามเส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงิน เพราะนายทุนบางครั้งอาจไม่สะดวกที่จะเทรดเอง และนักเทรดเองบางครั้งก็มีทรัพยากรไม่พร้อมจะลงทุน

เพื่อให้เส้นทางมาบรรจบกันจนเกิดการสร้างสรรค์ให้เงินแต่ละก้อนเติบโตได้จึงเกิดกองทุน Forex ระหว่างประเทศ เพื่อให้นักเทรดที่ไม่มีทุน แต่มีความสามารถในการเทรดให้เอาเงินทุนของนายทุนไปใช้ต่อยอดได้ โดยพยายามตัดเงื่อนไขและกฎต่างๆ ให้น้อยที่สุดหรือไม่มี จึงจัดการสอบกองทุนForex ขึ้น โดยเริ่มจากการตั้งโครงการ Ziskejucet.cz ในปี 2014 ก่อนจะกำเนิด FTMO และอื่นๆ ตามมา

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนสอบกองทุนForex

สำหรับผู้ที่มีความฝันอยากเป็นนักเทรดมืออาชีพ แต่ขาดทุนทรัพย์ในการเข้ามาเทรดสามารถดำเนินการสอบกองทุนForex ดังนี้

1) เลือกสอบกองทุนForex ที่ใช่กับตัวเอง

ก่อนอื่นควรศึกษากองทุนเทรด Forex ก่อนสมัครสอบกองทุนForex เพราะปัจจุบันมีหลากหลายกองทุนให้นักเทรดมืออาชีพเลือกใช้ แน่นอนว่า เกณฑ์การสมัครและเงื่อนไขในการนำทุนไปเทรดก็แตกต่างกันด้วย จึงจำเป็นต้องเลือกให้ตรงกับสไตล์การเทรดและความต้องการของตัวเองมากที่สุด

2) ศึกษาเงื่อนไขและเตรียมค่าสมัครสอบ

หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบกองทุนForex เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องมาเลือกกันต่อว่า จะสอบกองทุนในระดับไหน เพราะแต่ละกองทุนจะเปิดให้มีการสอบนักเทรด Forex หลายระดับ เพื่อให้เหมาะกับประสบการณ์ของนักเทรดและรายได้ที่ต้องการมากที่สุด เช่น

• MFF จะมี 3 ระดับ เริ่มตั้งแต่ Rapid ค่าสมัครเริ่มต้น 99 ดอลลาร์ มีโอกาสได้รับทุนจากการสอบกองทุนForex 10,000 ดอลลาร์ หากเทรดได้กำไรจะแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้ 12% และหากเลือกระดับอื่นก็จะมีค่าสมัคร ทุนที่ได้รับ และค่าคอมมิชชั่นเพิ่มมากขึ้นตามที่เลือกสอบ
• FTO จะมีการสอบ 2 แบบคือ Normal และ Aggressive สามารถเลือกได้ 5 ระดับ เริ่มตั้งแต่ ค่าสมัคร 10,000 ดอลลาร์ จะได้รับเงินจากกองทุนมาบริหาร 10,000 ดอลลาร์ โดยมีการกำหนดจำนวนขาดทุนต่อวัน, ขาดทุนรวมไม่เกิน, เป้าหมายกำไร, จำนวนวันเทรดขั้นต่ำ เป็นต้น ซึ่งต้องทำตามเงื่อนไขจึงจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามที่ได้ตกลงไว้
• ฯลฯ

สำหรับมือใหม่ที่หัดเป็นนักเทรดลองสอบกองทุนForex เราเลยขอแนะนำว่า ใครที่ใจร้อนให้เริ่มจากพอร์ตขนาดเล็กก่อน เพราะมีโอกาสสอบผ่านมากกว่า ไม่ต้องเสียเวลาและเงินไปฟรีๆ แต่ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เวลาเก็บพอร์ตไต่ระดับการบินไปสอบตอนพร้อมแล้วจะดีกว่า เพราะอาจไม่ผ่านต้องเสียเวลาและเงินมาสอบหลายรอบได้เหมือนกัน และที่สำคัญการรีบเร่งสอบพอร์ตเล็กอาจต้องรอนานหลายเดือน (ตามเงื่อนไขของแต่ละกองทุน) กว่าจะขยายพอร์ตได้

3) ศึกษาการเทรดและเตรียมกลยุทธ์

เมื่อเลือกสอบกองทุนForex ที่เหมาะกับตัวคุณได้แล้ว ‘ไม่มีนักรบคนไหนที่เข้าสนามรบด้วยมือเปล่า’ เพราะงั้นมาเตรียมอาวุธและกลยุทธ์ให้พร้อม ด้วยการศึกษาการเทรดขั้นพื้นฐานให้เชี่ยวชาญ พร้อมติดอาวุธจากเทคนิคการเทรดที่จะทำให้คุณสามารถเป็นนักเทรด Forex มืออาชีพได้ ดังนี้

• เข้าใจเครื่องมือของการเทรด Forex ก่อนว่า มีอะไรและใช้งานอย่างไรบ้าง
• เตรียมกลยุทธ์การเทรด : แม้ปกติแต่ละการสอบกองทุนForex จะไม่มีการบังคับว่า ต้องใช้เทคนิคหรือกลยุทธ์อะไรเป็นพิเศษ แต่ก็จำเป็นจะต้องเตรียมกลยุทธ์ไว้ใช้ในการทดสอบการเทรดให้ผ่านตามเงื่อนไข อย่างน้อย 2 กลยุทธ์ เพราะต้องเล็งจังหวะให้แม่นตั้งแต่ 1-2 ออเดอร์แรก หากใช้กลยุทธ์เดียวก็จะลดโอกาสเกิดผลลัพธ์ปังๆ ให้ยากขึ้น ส่วนตัวแนะนำให้ดูพวกกลยุทธ์ Riks Reward Ratio Forex R:R และการตั้ง TP/SL ไม่จำเป็นเลยว่า จะต้องทำออเดอร์ให้ได้ไวภายในสัปดาห์แรก แต่ควรรอจังหวะเหมาะๆ หาจุดยิงให้ดีที่สุด เพราะถ้าเท่าทุนหรือขาดทุนเข้าเนื้อจากวงเงินที่เขาให้เราสอบล่ะก็มีหวังได้สอบใหม่อีกรอบแน่

• รู้ตัวว่า ควรเข้า ออก และเลิกเทรดเมื่อไหร่ : เรื่องการหาจุดเข้าและออกของการเทรด Forex คิดว่า นักเทรดมืออาชีพน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ส่วนการเลิกเทรดขณะการสอบกองทุนForex นี่ล่ะที่สำคัญ ถ้าดูแล้วมีแนวโน้มขาดทุนติดต่อกันหลายวันจนผลขาดทุนเกิน 5-6% แล้วควรทำใจและกลับไปทบทวนบทเรียนดูว่า ผิดพลาดตรงไหนก่อนพัฒนามาสอบอีกครั้ง

• จำนวนการเทรดต่อวัน : นักเทรดจำเป็นจะต้องประเมินจำนวนการเทรดจากระดับความเสี่ยง หากอยู่ใน 1% อาจแบ่งเป็น 2-3 ครั้งต่อวันตามความถนัดและการจัดการอารมณ์ (ไม่เครียดและมีสติจัดการเล็งได้แม่นยำ) แต่ถ้าความเสี่ยง 2% แนะนำให้เทรด 1 ครั้งต่อวันจะดีกว่า

• โปรแกรมและบอทที่ใช้ในการเทรด Forex : เลือกที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองและเคยศึกษามาก่อนเข้ารับการทดสอบ เพื่อใช้ในการทุ่นแรง ไม่ใช่เพิ่มภาระให้มาแก้สถานการณ์ภายหลัง

4) เตรียมตัวเตรียมใจ

ความรู้ตามทฤษฎีพร้อม ประสบการณ์จากการปฏิบัติจริงก็พร้อม ก่อนจะไปคลิกเข้าเว็บเตรียมสมัครสอบกองทุนForex ขอแนะนำให้เตรียมอีกเล็กน้อย คือ เตรียมตัวเตรียมใจ อย่าเครียดหรือกดดันมากเกินไป เพราะการสอบกองทุนForex ไม่ได้เป็นเหมือนการสอบวัดความรู้หรือวิชาชีพทั่วไปที่สอบแต่ละขั้นตอนจบใน 1 วัน แต่การสอบเป็นนักเทรด Prop Trade ในแต่ละกองทุนจะมีขั้นตอนที่ต้องสอบปฏิบัติจริง ลงมือปั้นพอร์ตกันจริง อย่างต่อเนื่องอาจนานครึ่งเดือนบ้าง หนึ่งเดือนบ้าง ตามแต่ละแห่งกำหนดไว้

สรุป

เพราะฉะนั้น สำหรับท่านใดที่กำลังสนใจสอบกองทุนForex เพื่อก้าวขึ้นไปสู่นักเทรดมืออาชีพ หรือ Prop Trade โดยอาศัยทุนก้อนโตจากนายทุนอยู่ อย่าลืมศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนและการเตรียมตัวก่อนสอบกองทุนForex ให้พร้อม แล้วเมื่อพอร์ตที่คุณปั้นมาและความสามารถที่สั่งสมมานานถึงเวลาอันสมควรแล้วจากความฝันก็จะกลายเป็นความจริงได้ไม่ยากแน่นอน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ Expert Advisor (EAs)