คู่มือการเทรด และ ลงทุนในดัชนี DAX 40 ฉบับใช้ได้จริง !
Table of Contents
หุ้นเยอรมันเป็นที่รู้จักกันดีในบรรดาเทรดเดอร์มืออาชีพ และ กองทุนการลงทุนระดับโลก เนื่องจากเป็นแหล่งในการสร้างรายใหญ่ที่ไร้ขีดจำกัด แต่นั่นก็หมายถึง คุณต้องมีความรู้ และความเข้าใจในสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นอย่างดี
บทความนี้จะนำคุณไปพบกับการลงทุนในดัชนี DAX 40 (เดิมคือ DAX 30) ในแบบ CFD รวมทั้งข้อดี และ ประโยชน์ของการเทรด CFD รวมทั้งกลยุทธ์การซื้อขาย และการลงทุนที่คุณไม่ควรพลาด!
ทุกเรื่องที่ควรรู้สำหรับผู้สนใจ DAX 40
รู้จักกับดัชนี DAX
ดัชนีเยอรมัน (GER40) – หรือ DAX Index คือ หนึ่งในดัชนีตลาดหุ้นหลักที่ติดตามประสิทธิภาพราคาของบริษัทเยอรมันที่ใหญ่ที่สุด 30 แห่ง ในแง่ของปริมาณคำสั่งซื้อขาย และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ที่ใหญ่ที่สุดที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Stock Exchange) ของเยอรมนี โดยมีตลาดอ้างอิงที่รู้จักกันในนาม Xetra โดยมีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับดาวโจนส์ (Dow Jones) ที่ซื้อขายโดยตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)
โดย DAX คือ คำย่อมาจากคำภาษาเยอรมัน “Deutscher Aktienindex” ซึ่งหมายถึงดัชนีหุ้นของเยอรมัน ซึ่งเป็นดัชนีหลักในภูมิภาคยุโรป
ซึ่งดัชนีระดับประเทศทั้งหมด เช่น DAX 40 จะเป็นตัวเลือกเศรษฐกิจตลาดโดยรวมของบริษัททั้งหมดที่มีรายชื่ออยู่ในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง โดย DAX 40 นั้นครอบคลุมกลุ่มบริษัทที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมนี
โดยมีบริษัทต่างๆ ในหลายภาคส่วนตั้งแต่การผลิต การธนาคาร ประกันภัย เสื้อผ้า เภสัชกรรม โลจิสติกส์ เคมีภัณฑ์ และสินค้าอุปโภคบริโภค โดย DAX 40 เริ่มต้นในวันที่ 30 ธันวาคม 1987 ที่มูลค่า 1,000 pts หลังจากนั้นในวันที่ 20 กันยายน 2021 DAX 30 ได้ยอมรับบริษัทใหม่ 10 แห่งเข้าเป็นส่วนหนึ่งจึงได้กลายเป็น DAX_40 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จุดเริ่มต้นของ Dax Index
DAX 40 สัญชาติเยอรมันนี้ (เดิมชื่อ DAX 30) ออกแบบโดย Frank Mella บรรณาธิการของ Börsen-Zeitung ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่พัฒนาดัชนีหุ้นเยอรมันของบริษัทที่สำคัญที่สุดในเยอรมนี
แน่นอนว่า นายแบงค์เหล่านั้นรู้สึกประทับใจในดัชนีหุ้นเยอรมันที่ Frank Mella คิดค้นขึ้นมาเป็นอย่างมาก สุดท้ายก็เป็นหนังสือพิมพ์ Börsen-Zeitung ที่ร่วมมือกับทาง Frank Mella และกลุ่มนายแบงค์ที่ตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างดัชนีหุ้นเยอรมันในชื่อ “DAX 40” ขึ้นมาใช้ในประเทศเยอรมนีโดยเฉพาะ
เรื่องราวของราคา DAX 40
- ดัชนีหุ้น DAX 40 เปิดตัวเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 1987 ด้วยมูลค่า 1,000 pts นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีการตีราคาใหม่มากกว่า 13 ครั้ง
- ระดับสูงสุดใน DAX 40 อยู่ที่ 13,903 จุด เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2020
- ครั้งแรกที่ดัชนีเยอรมันปิดเหนือ 5,000 จุดคือวันที่ 20 มีนาคม 1998 ที่ 5,001.55 จุด
- การลดลงรายปีที่ใหญ่ที่สุดคือในปี 2002 ที่มีการลดลงสูงถึง 44% ตลอดทั้งปี
- DAX 40 Index ทำกำไรสูงสุดในวันเดียวถึง 11.40% เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2008
- ครั้งแรกที่ดัชนี DAX พุ่งขึ้นเหนือ 12,000 จุด คือวันที่ 16 มีนาคม 2015 โดยปิดที่ 12 ,167.72 จุด
โดยในช่วง 5 ปี ราคาดัชนี DAX ของเยอรมนี มีราคาค่อนข้างต่ำ โดยปี 2015 มีราคาที่ +9.56% ต่อมาในปี 2019 ก็มีราคาเพิ่มที่ +26.48% ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสมากมายให้กับเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ระยะยาว รวมทั้งการทำกำไรระยะสั้น และ ระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาของเทรดเดอร์ระยะสั้น
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่สำคัญของดัชนี DAX 40
- ด้วยการกำเนิดของสถาบันเงินตรายุโรป (European Monetary Institute) ในปี 1994 และ การก่อตั้งสำนักงานใหญ่ในแฟรงค์เฟิร์ต DAX 100 จึงเกิดขึ้น โดยดัชนีนี้มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพ แล วิวัฒนาการของหน่วยงานที่มีสภาพคล่องมากที่สุด 100 รายการ
- ต่อมาในปี 1995 มีการปรับรูปแบบของ Deutsche Bundespost ในเยอรมนี ซึ่งการดำเนินการนี้ส่งผลให้มีการแยกสถาบันการเงินออกเป็น 3 บริษัทอิสระ ได้แก่ Deutsche Post AG, Deutsche Telekom AG และ Postbank AG โดยหน่วยงานเหล่านี้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทที่ประกอบขึ้นเป็นดัชนี DAX 40 ของเยอรมนีในปัจจุบัน
- ในเดือนพฤศจิกายน 1996 Deutsche Telekom ซึ่งเป็นของรัฐได้ดำเนินการ OPV ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของดัชนีมีการออกหุ้น 713 ล้านหุ้น และ ระดมทุน 13 พันล้านยูโร จากอุปทานที่มากเกินกว่า 5 ครั้ง
- ในปี 2000 เริ่มต้นการใช้เงินยูโร และ ยกเลิกเครื่องหมายเยอรมัน ซึ่งเป็นสกุลเงินก่อนหน้าของเยอรมนีถูกยกเลิก
- ปี 2003 เป็นปีที่ไม่ดีสำหรับตลาดตราสารทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ DAX 40 ของเยอรมัน จากการถูกมองว่าเป็น ตลาดใหม่ (Emerging Markets) หลังจากการระเบิดในยุคฟองสบู่ ทำให้ราคา DAX 40 ดิ่งลง
- การควบรวมกิจการองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของดัชนี DAX เกิดขึ้นระหว่าง Daimler-Benz และ Chrysler ซึ่งได้ข้อสรุปในวันที่ 7 พฤษภาคม 1998 ในขณะนั้น การควบรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยผู้ถือหุ้นของ Daimler ถือหุ้นในบริษัทใหม่ประมาณ 57% ในขณะที่ผู้ถือหุ้น Chrysler ถือหุ้น 43% ที่เหลือ
- ในเดือนตุลาคม 2008 Volkswagen กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก (อย่างน้อยก็ 2-3 ชั่วโมง) เมื่อมีราคาหุ้นเกิน 1,000 ยูโร ในช่วงกลางของการต่อสู้แย่งชิงระหว่าง Porsche และ Volkswagen ก็เกิดการเพิ่มขึ้นในระยะสั้น อันเนื่องมาจากการสะสมของเงินที่แข็งแกร่งในตลาด ราคาจึงสูงขึ้นเมื่อมีการ Short Sell ครอบคลุมตำแหน่งในหุ้น
หลังจากเปิดตัวเมื่อ 30 ปีที่แล้ว มูลค่าของดัชนี DAX 40 ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า หากนักลงทุนซื้อหุ้นในดัชนีที่ระดับสูงสุดในปี 1988 ก็จะได้รับผลตอบแทนถึง 7.5% โดยเฉลี่ยต่อปี
นอกจากนี้ DAX 40 ยังคงเป็นหนึ่งในดัชนีหุ้นที่สำคัญที่สุดทั่วโลก ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายอย่างที่เราสามารถซื้อขายได้ และเป็นพื้นฐานที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในตลาดอนุพันธ์
และ หากคุณต้องการเริ่มซื้อขายในดัชนี DAX วันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเปิดบัญชี และ เริ่มเทรดดัชนีหลักได้ทันที!
บริษัทในดัชนี DAX 40
ดัชนี DAX 40 ประกอบด้วยบริษัทต่างๆ แห่งจากตลาดหุ้นเยอรมัน ซึ่งมีรายละเอียด ดังตาราง
บริษัทในดัชนี DAX 40 | |||
---|---|---|---|
Adidas | Daimler Truck | Henkel vz. | RWE |
Airbus | Deutsche Bank | Infineon | SAP |
Allianz | Deutsche Börse | Linde | Sartorius vz. |
BASF | Deutsche Post | Mercedes-Benz Group | Siemens |
Bayer | Deutsche Telekom | Merck | Siemens Energy |
Beiersdorf | E.ON | MTU Aero Engines | Siemens Healthineers |
BMW | Fresenius Medical Care | Münchener Rückversicherungs-Gesellschaft | Symrise |
Brenntag | Fresenius | Porsche | Volkswagen |
Continental | Hannover Rück | Porsche Automobil vz. | Vonovia |
Covestro | HeidelbergCement | QIAGEN | Zalando |
ที่มา: businessinsider.com (อัปเดต กุมภาพันธ์ 2023)
โดยบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในดัชนี DAX40 ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด คือ SAP มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทซอฟต์แวร์ในเยอรมนีเกิน 150 พันล้านยูโร (ณ เดือนธันวาคม 2019)
ในขณะที่ DAX40 Index เปิดตัว SAP เป็นเพียงบริษัทเล็กที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ก็ได้กลายเป็นดาวเด่น หลังจากเข้าสู่ดัชนีในปี 1995 จากราคาที่พุ่งขึ้นสู่ระดับที่น่าประทับใจ
นอกจาก SAP ยังมี Linde ที่มีมูลค่ามากกว่า 101 พันล้านยูโร และ Siemens ที่มีมากกว่า 100 พันล้านยูโร (การประเมินมูลค่า ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2019) มูลค่าตลาดรวมของดัชนี DAX ในวันเดียวกันคือ 1,447,110 ล้านยูโร
รายได้ใน DAX 40
รายได้ในดัชนี DAX และ ข้อมูลเชิงลึกในมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของแต่ละบริษัท DAX จากตลาดหุ้นเยอรมัน โดยสามารถตรวจสอบมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัท DAX แต่ละแห่งได้ที่ Finanzen และ สามารถดูอัตราส่วนราคา/รายได้สำหรับบริษัท DAX แต่ละแห่ง (“KGV” ในภาษาเยอรมัน) ได้จากเว็บไซต์เดียวกัน
อัตราส่วนราคา/กำไรคืออะไร
โดยทั่วไปแล้ว การตรวจสอบอัตราส่วนราคา/รายได้นั้น ต้องใช้ระยะเวลาหลายปีในการคืนราคา บริษัทที่มีอัตราส่วนราคา/กำไรเท่ากับ 14 ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลา 14 ปีของรายได้ในการชำระราคา ดังนั้น รายได้เท่ากับจำนวนเงินที่บริษัทหาได้ในหนึ่งปี ยิ่ง PE สูง มูลค่าของหุ้นก็จะยิ่งสูง และ ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย PE สามารถตกลงต่ำกว่า 10
จากข้อมูลของ CNN Money ราคาเฉลี่ย/รายได้ (PE) ของ DAX40 อยู่ที่ 22.9 จะใช้เวลา 22.9 ปี (โดยสมมติว่ารายได้ของบริษัทในปัจจุบันคงที่) เพื่อชำระราคาซื้อเริ่มต้นของหุ้นอีกครั้ง ประวัติศาสตร์นี้ชี้ให้เห็นว่าตลาดในปัจจุบันมีการประเมินมูลค่าสูง โดยตลาดตะวันตกส่วนใหญ่มักจะซื้อขายใน “ช่วงอัตราส่วน PE เฉลี่ย” (เช่น ประมาณ 14-16)
การไหลของสินเชื่อราคาถูก และ QE เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาในตลาดตราสารทุนทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่คำถามใหญ่คือ ราคาเหล่านี้จะรักษามูลค่าที่สูงไว้ได้หรือไม่เมื่อธนาคารกลางพยายามทำให้นโยบายการเงินเป็นปกติ และ ที่จริงแล้วพยายามลด QE ด้วยการลดงบดุล
ทำไมต้องลงทุนในหุ้น DAX
เมื่อพูดถึงการซื้อขาย และ การลงทุน วิธีหนึ่งที่ดีกว่าในการซื้อขายเพื่อความสำเร็จในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นคือการซื้อกองทุนดัชนีหรือตราสารทุน เทรดเดอร์ยังอ้างถึงดัชนีว่าเป็น “หุ้น” เนื่องจากสินทรัพย์พื้นฐานของดัชนีคือ “ตราสารทุน”
เทรด DAX 40: กองทุนดัชนีเทียบกับกองทุนหุ้น
กองทุนดัชนี และกองทุนหุ้นคืออะไร? กองทุนดัชนีคือกองทุนหุ้นที่เป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมดของดัชนีหลัก (เช่น US S&P 500, Nikkei 225 ของญี่ปุ่น หรือ DAX40 ของเยอรมนี) การซื้อขายดัชนีนั้นยอดเยี่ยมด้วยเหตุผลหลัก 2 อย่างคือ ประการแรกไม่ต้องกังวลกับการเลือกหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่ต้องการซื้อ ในกรณีของ DAX แทนที่จะตัดสินใจระหว่าง Deutsche Bank กับ K+S AG ก็จะได้หุ้นของทั้งคู่ พร้อมกับ 28 หุ้นอื่นๆ ที่มีอยู่ใน DAX40
ข้อดีอีกอย่างคือ กองทุนดัชนีมีต้นทุนต่ำ เพราะทุกครั้งที่เลือกซื้อกองทุนหุ้น จะต้องเสียค่าธรรมเนียม กองทุนที่มีการจัดการอย่างแข็งขันมักจะมีผู้จัดการกองทุนที่พยายามเลือก และเลือกหุ้นที่ดีที่สุด โดยปกติแล้วก็จะมีค่าธรรมเนียมสูงสุดเช่นกัน
ในทางกลับกันสิ่งที่เรียกว่า “กองทุนที่มีการจัดการแบบพาสซีฟ” เช่น กองทุนดัชนี ไม่ต้องการนักวิเคราะห์หุ้นที่ได้รับค่าตอบแทนสูง ดังนั้น จึงมีการจะรักษาค่าธรรมเนียมให้ต่ำลงมาก
เทรด DAX 40 ด้วยสเปรดต่ำ
ต้นทุนการซื้อขายที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งคือ “สเปรด” หรือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ และราคาเสนอขายของสินทรัพย์ โดยทั่วไป ราคาเหล่านี้มีความแตกต่างกัน และจะจ่ายให้กับนายหน้า CFD เป็นค่าธรรมเนียม
ทั้งนี้ สเปรดจึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาหากต้องการเทรดให้ได้กำไร ดังนั้น ในการซื้อขายระยะยาว ไม่เพียงต้องพิจารณาราคาที่เพิ่มขึ้นเหนือราคาเสนอซื้อเดิมเท่านั้น แต่ยังต้องไต่ระดับเกินกว่าราคาเสนอเดิมด้วย เนื่องจากสเปรดจะกินผลกำไรจากการซื้อขายของลูกค้า ทำให้ลูกค้าต้องมองหาโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำ
ความผันผวนของค่าสเปรด อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยทางการตลาดในขณะนั้นด้วย กล่าวคือ สภาพคล่อง ตลาดที่มีสภาพคล่องก็หมายความว่ามีการซื้อขายจำนวนมากที่เสร็จสิ้นในแต่ละวัน และตลาดประกอบด้วยเทรดเดอร์ที่มีความเคลื่อนไหวจำนวนมาก
ตลาด Forex มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากธนาคารหลายร้อยแห่ง และบุคคลหลายล้านคนซื้อขายสกุลเงินทุกวัน และสเปรดจะถูกหารด้วยช่วงรายวันเฉลี่ยของคู่สกุลเงิน ทำให้มีเปอร์เซ็นต์ที่บ่งชี้ได้อย่างแม่นยำมากขึ้นว่าสเปรดมีค่าใช้จ่ายในยิ่งจำนวนน้อยยิ่งดี
และหุ้น DAX ก็มีสเปรดที่ต่ำ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มของ Admirals ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่คุณควรใช้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ DAX40 Index ของ Admirals ยังมีมาร์จิ้นที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่อาจมีข้อกำหนดด้าน Margin ที่สูงกว่า
เทรด DAX 40 ด้วยเลเวอเรจ
เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้ตราสารการเงินหลากหลายประเภทที่สามารถเทรดด้วยลเวอเรจ และในการซื้อขายในดัชนีหุ้นเยอรมัน ก็สามารถเทรดด้วยเลเวอเรจได้จาก ฟิวเจอร์ส DAX40
โดยเทรดเดอร์หลายคนเชื่อว่าเมื่อซื้อขายฟิวเจอร์สของ DAX40 อาจต้องใช้มาร์จิ้นที่สูงเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงมองหาทางเลือกอื่นในการลงทุนในฟิวเจอร์ส DAX (DAX futures)
ในการลงทุน DAX40 CFD ที่ Admirals ด้วยเลเวอเรจ 1:20 สามารถคำนวณง่ายๆ ดังนี้
แบ่งมูลค่าปัจจุบันของดัชนี 20 points ในมาร์จิ้นที่เป็นสกุลเงินยูโร โดยหากดำเนินการต่อด้วยตัวอย่างก่อนหน้า ในการเปิด Position DAX ที่ 30 – 9000 จุด มาร์จิ้นที่จำเป็นสำหรับ 1 สัญญาจะกลายเป็น 450 ยูโร (9,000/20 = 450)
แต่ CFD ก็ทำให้การซื้อขายขนาดเล็กน่าสนใจมากขึ้น เพราะจำนวนล็อตที่คุณใช้คือการตัดสินใจของคุณ เช่นเดียวกับขนาดของล็อต และกลยุทธ์การซื้อขาย
การวิเคราะห์ทางเทคนิค DAX 40
การวิเคราะห์ทางเทคนิค คือการศึกษารูปแบบราคาในสินทรัพย์ต่างๆ ดังนั้น หากเราเห็นรูปแบบที่ผ่านมาซ้ำแล้วซ้ำอีก จะถือว่าราคาของสินทรัพย์จะเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันกับที่เคยทำในอดีต โดยตรวจสอบจากกราฟรายเดือน รายสัปดาห์ และรายวัน เพื่อเรียนรู้ และศึกษาข้อมูลของหุ้น DAX
การวิเคราะห์ทางเทคนิคดัชนี DAX 40: กราฟรายเดือน
กราฟรายเดือน DAX40 แสดงวิวัฒนาการที่น่าสนใจ ดังนี้
ที่มา: Admirals MetaTrader 5 Supreme Edition CFD DAX40 ระยะเวลากราฟรายเดือน: กุมภาพันธ์ 2009 – ธันวาคม 2019 วันที่เก็บภาพ 16 ธันวาคม 2019 หมายเหตุ: ประสิทธิภาพที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต
ปัจจัยที่ควรจับตามอง:
อัตราสูงสุดรายปี (2019): 13 455
อัตราสูงสุดในอดีต: 13 600
Stands: 12 404/10 277
จากปี 2017 จนถึงสิ้นปี 2018 เราสามารถสังเกตการก่อตัวของตัวเลขทางเทคนิคที่เรียกว่า Shoulder – Head – Shoulder ซึ่งมีราคาที่ตกลงในเดือนตุลาคม 2018 สู่พื้นที่สนับสนุนที่ 10 277 และกลับสูงชันมากจนถึงราคาปัจจุบันที่ 13 455 ดังที่เห็นจากกราฟแนวโน้มของ DAX40 นั้นเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ปัจจัยทั้ง 3 นี้ จึงยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ DAX 40: กราฟรายสัปดาห์
ที่มา: Admirals MetaTrader 5 Supreme Edition CFD DAX 40 ระยะเวลากราฟรายสัปดาห์: กันยายน 2014 ถึงธันวาคม 2019 วันที่เก็บภาพ 16 ธันวาคม 2019 หมายเหตุ: ประสิทธิภาพที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต
- ราคารายสัปดาห์ของ CFD DAX40 แสดงการก่อตัวของสามเหลี่ยมของความไม่แน่นอนระหว่างจุดสูงสุดของเดือนเมษายน 2015 ที่ 12 404 และขั้นต่ำของเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ที่ 8695 จุด
- CFD DAX40 ทำลายตัวเลขนี้เมื่อสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2016 เพื่อถูกจับโดยแนวต้านที่ 10,700 จุดจนถึงเดือนธันวาคม 2016 สัปดาห์สุดท้ายของปีนั้นทำให้ดัชนีหุ้น DAX ทะลุเกณฑ์นั้น และเริ่มต้นการเพิ่มระดับใหม่จนกว่าจะเกิน 11 300 คะแนนในปี 2017
- ดังที่เราเห็นในกราฟ แนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ในพื้นที่ 13,300 จุด และหลังจากรักษาระดับแนวต้านในเดือนพฤศจิกายน แนวต้านถัดไปจะเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ DAX 40: กราฟรายวัน
ที่มา: Admirals MetaTrader 5 Supreme Edition CFD DAX40 กราฟรายวัน ระยะเวลา: 3 กรกฎาคม 2018 ถึง 13 ธันวาคม 2019 วันที่เก็บภาพ 16 ธันวาคม 2019 หมายเหตุ: ประสิทธิภาพที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต
หากเราสรุปวิวัฒนาการของ DAX40 CFD ระหว่างปี 2018 และตลอดปี 2019 เราจะเห็นแนวโน้มที่ชัดเจน 2 อย่าง ดังนี้
- แนวโน้มขาลงรายวันตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 ถึงธันวาคม 2018
- แนวโน้มขาขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2019 ที่เด่นชัดมากขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม และต่อเนื่อง
อยากเทรด DAX 40 ต้องทำอย่างไร ?
การลงทุนระยะกลาง และระยะยาว – Swing trading CFD DAX40
หากคุณมีงานประจำ การซื้อขายแบบสวิง (Swing) เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สิ่งที่คุณต้องทำคือวิเคราะห์กราฟ 2-3 นาทีในช่วงต้นสัปดาห์ และติดตามข่าวสารเพื่อจัดการความเสี่ยง ด้วยวิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลา และเงิน ในทำนองเดียวกัน กิจกรรมการซื้อขายก็สะดวกสบายขึ้นเช่นกัน
การลงทุนระยะสั้น – Scalping CFD DAX 40
หากคุณมีเวลาในการซื้อขายมากขึ้น การซื้อขายแบบ Intraday trading หรือ Scalping อาจเป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยกลยุทธ์การซื้อขายนี้สามารถเปิดPosition ได้ตลอดเวลาของวัน และปิดก่อนสิ้นสุดเซสชั่น ช่วงเวลามักจะน้อยกว่า 1 ชั่วโมง โดยปกติประมาณ 5 นาที และเห็นได้ชัดว่าวิธีการเหล่านี้ ต้องคำนึงถึงปฏิทินเศรษฐกิจรายวัน และให้ความสนใจกับกราฟการซื้อขายรายชั่วโมง เช่น ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาของวันที่มีกิจกรรมน้อย เช่น ประมาณเที่ยง เนื่องจากไม่มีกิจกรรมที่ส่งผลให้ราคาผันผวน ซึ่งมีความแตกต่างหลักระหว่างกลยุทธ์การซื้อขายเหล่านี้คือ
- ระยะเวลาที่สามารถใช้ในการซื้อขาย CFD DAX40
- ระยะเวลาที่ต้องการให้การซื้อขายเปิดอยู่
การทำ Scalping ใน DAX สามารถทำได้หลายวิธี เราจะพูดถึงกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่คุณควรลองใช้ในบัญชีทดลองก่อนที่จะใช้ในบัญชีจริง ดังนี้
กลยุทธ์นี้ใช้ปลั๊กอิน MetaTrader Supreme Edition 4 หรือ 5 ดังนั้น อย่าลืมดาวน์โหลดฟรีก่อน
ระยะเวลาที่คาดหวัง: 30 min
Indicators:
- EMA of 10 (สีฟ้า), EMA of 25 (สีแดง)
- Admirals Pivot (เลือกจากใน MT4 / MT5 Supreme Edition)
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเทรด : เฉพาะ 3 ตัวโมงแรงในตลาด London, New York
เงื่อนไขการเทรดฝั่ง Buy:
EMA สีฟ้า (10) ต้องตัดเส้น EMA สีแดง (25) ขึ้นไป โดยใช้แนว Pivot Point เป็นเกณฑ์ ราคาต้อง Cross ในบริเวณที่ใกล้กับแนว Pivot เป็นที่แนวรับ
เงื่อนไขการเทรดฝั่ง Sell:
EMA สีฟ้า (10) ต้องตัดเส้น EMA สีแดง (25) ลงมา โดยใช้แนว Pivot Point เป็นเกณฑ์ ราคาต้อง Cross ในบริเวณที่ใกล้กับแนว Pivot เป็นที่แนวต้าน
ตัวอย่างการเทรดในฝั่ง Short (Sell):
จะเห็น EMA 10 ได้ Cross ตัว EMA 25 ลงมา และจังหวะตัดลงนั้นอยู่ใกล้กับ R1 ของ Pivot (แนวต้าน). จุด Take Profit จะอยู่บริเวณ Pivot Point หรือ S1
หมายเหตุ: ประสิทธิภาพในอดีตไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ผลลัพธ์ในอนาคตที่เชื่อถือได้
ตัวอย่างการเทรดในฝั่ง Long (Buy):
เส้น EMA 10 ได้ Cross เส้น EMA 25 ขึ้นไป และจังหวะตัดขึ้นไปนั้น อยู่ใกล้บริเวณ S1 ซึ่งคือแนวรับที่คำนวณโดย Pivot Point Point อาจะใช้จุด R2 and R3 เป็นแนวทำกำไรออกจากสถานะ
หมายเหตุ: ประสิทธิภาพในอดีตไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ผลลัพธ์ในอนาคตที่เชื่อถือได้
กลยุทธ์ที่สมดุล: การรวม Scalping และ Day Trading DAX 40
โดยปกติ CFD ดัชนีบน DAX จะทำการซื้อขายในรูปแบบของกลยุทธ์ Scalping DAX40 ยังขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด บางครั้ง เทรดเดอร์สามารถซื้อขายวันได้ แต่เนื่องจากความผันผวนจึงเหมาะมากสำหรับนักเก็งกำไร และเทรดเดอร์ระยะสั้นที่กำลังมองหาตลาดที่มีความเคลื่อนไหว
ระยะเวลาที่คาดหวัง: 30 นาที
Indicators:
- 10 EMA เซ็ทปิด (สีฟ้า), 25 EMA เซ็ทปิด (สีแดง)
- Admirals Pivot (เลือกจากใน MT4/MT5 Supreme Edition)
เวลาในการซื้อขาย: 3 ชั่วโมงแรกของเซสชั่น London และ/หรือ New York (อาจใช้ Admirals Day Session เพื่อให้สามารถระบุได้ง่ายขึ้นว่ากำลังซื้อขายในเซสชั่นใด)
การเทรดระยะยาว: EMA สีฟ้า (10) ต้องข้าม EMA สีแดง (25) ในทิศทางขึ้นใกล้กับ Admirals Pivot Support หรือ Pivot Point
การเทรดระยะสั้น: EMA สีฟ้า (10) ต้องข้าม EMA สีแดง (25) ในทิศทางลงใกล้กับ Admirals Pivot Resistance หรือ Pivot Point
หาก 10 ขึ้นมาผ่าน 25 คุณจะตั้งเป้าที่จะเล่นยาว และถ้า 10 ลดลงจนถึง 25 คุณก็จะตั้งเป้าที่จะขายให้สั้น ตัวอย่างรายการสั้น: EMA สีฟ้าได้ข้าม EMA สีแดงใกล้กับ R1 (แนวต้าน) เป้าหมายคือ PP (Pivot Point) และ S1 (Support) สามารถดูทั้งหมดนี้ได้ในกราฟด้านล่าง
ภาพจาก: MetaTrader 4 – กราฟ DAX40 M30 – Disclaimer: กราฟสำหรับตราสารทางการเงินในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นตัวอย่าง และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการซื้อขายหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFD, ETF, หุ้น) ผลการดำเนินงานในอดีตไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงผลการดำเนินงานในอนาคตเสมอไป
จากกราฟด้านล่างมีตัวอย่างรายการแบบยาว เส้น EMA สีฟ้าตัดกับสีแดงจากด้านล่าง ใกล้กับ S1 (แนวรับ) จากนั้นราคายังคงดำเนินต่อไปที่ PP (Pivot Point) และระดับแนวต้าน บางครั้ง (ดังที่เราเห็นในตัวอย่างนี้) โมเมนตัมของราคาแข็งแกร่งมากจนอาจแตะ R2 และ R3 (แนวต้าน)
ภาพจาก: แผนภูมิ MetaTrader 4 – กราฟ DAX40 M30 -Disclaimer: แผนภูมิสำหรับตราสารทางการเงินในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นตัวอย่าง และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการซื้อขายหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFD, ETF, หุ้น) ผลการดำเนินงานในอดีตไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงผลการดำเนินงานในอนาคตเสมอไป
เทรด DAX ETF
Exchange-Traded Funds หรือที่เรียกว่ากองทุน ETF นั้น คือ หลักทรัพย์ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และออกแบบมาเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของดัชนี ภาคอุตสาหกรรม หรือสินทรัพย์หนึ่ง ๆ
แน่นอนว่า จะมีกองทุน ETF ที่ติดตามผลการดำเนินงาน DAX ด้วย ซึ่งจะไม่ใช่แค่การที่กองทุน ETF เข้าไปซื้อดัชนี Dax เท่านั้น แต่จะมีการป้องกันความเสี่ยงด้วยตราสารประเภทต่างๆ เช่น Future, Option เป็นต้น ทำให้นักลงทุนที่ลงทุน ETF จะได้รับผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี โดยที่ไม่ได้มีความผันผวนสูงมากนัก เนื่องจากผู้จัดการกองทุนจะช่วยป้องกันความเสี่ยงให้เรา
พูดง่ายๆ คือการให้มืออาชีพเข้ามาบริหารพอร์ตให้เรา โดยคุณอาจเลือกกองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้นยุโรป เยอรมนี เช่น Industrial Select Sector SPDR Fund
ที่มา: กราฟราคาของ Industrial Select Sector SPDR Fund ETF CFD (#XLI) Disclaimer: กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, หุ้น) หมายเหตุ: ผลการดำเนินการในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้
ข้อดีของการใช้ MetaTrader เพื่อซื้อขาย DAX 40
ประโยชน์ของการใช้ Metatrader ในการเทรด DAX Index จะมีเวลา เปิด-ปิด ที่แน่นอน ซึ่งก็คือเวลาทำการของตลาดหุ้นเยอรมันนั่นเอง
- ตลาดหุ้น DAX เปิดกี่โมง : 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
- ตลาดหุ้น DAX ปิดกี่โมง : 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คุณสามารถฉกฉวยโอกาสจากการเคลื่อนไหวของการราคา คุณสามารถพัฒนากลยุทธิ์ที่ได้ประโยชน์จากความผิดปกติต่างๆ (หากมันเกิดขึ้น) ของราคาที่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลา “เปิดตลาด” บางครั้งราคาก็กระโดดเก็บ Gap
ตัวอย่างการเปิดสถานะ (วิธีซื้อดัชนี DAX):
ตลาดหุ้นโดยรวมเปิดเวลา 9.00 น. (13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) เราจะเห็นได้ว่าชั่วโมงแรกของการซื้อขาย DAX ที่สอดคล้องกับช่วงก่อนเปิดตลาดของเยอรมันได้สร้างช่วงในกราฟ 5 นาที ซึ่งกำหนดขึ้นระหว่างขีดจำกัดบนที่ 13 074.06 และขีดจำกัดล่างที่ 13 043.26 คะแนน การศึกษากราฟ 30 นาทีแสดงให้เห็นแนวโน้มขาลง
สถานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้คือพยายามขายดัชนีในระดับที่น่าสนใจหรือทำลายระดับสำคัญ
เพื่อแสดงตัวอย่าง กราฟนี้แสดงถึงเซสชันของ DAX40 CFD
หมายเหตุ: ประสิทธิภาพที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต
จากตัวอย่างจะดีกว่าที่จะรอการเปิดตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสังเกตการพังทลายที่แท้จริงของช่วงล่างสุดของช่วง ซึ่งโอกาสในการซื้อขายที่แท้จริงมาถึง
ทั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้ในการเทรด แต่สำหรับตัวอย่างนี้ เราตัดสินใจซื้อการทะลุระดับที่ 13 043.26 จุด โดยมีขีดจำกัดการสูญเสียที่อีกด้านหนึ่งของช่วง 13 074.03 ซึ่งสูงกว่าประมาณ 30 จุดโดยมีเป้าหมายเพื่อผลกำไร 12 982 สองเท่าของช่วง
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่คุณต้องการรับ ขนาดต่ำสุดที่เป็นไปได้ในสัญญา DAX40 Admirals CFD มีมูลค่า 0.10 ยูโรต่อจุด
ขนาดของ Stop Loss คือ 30 คะแนน เป้าหมายของคุณคือ 12 982 เพื่อรับ 60 แต้มกำไร
- 0.10 * 30 = ความเสี่ยง 3 ยูโร เพื่อประโยชน์ 0.10 * 60 = 6 ยูโร
- 1 * 30 = 30 ยูโร ความเสี่ยงเพื่อประโยชน์ 1 * 60 = 60 ยูโร
- 10 * 30 = ความเสี่ยง 300 ยูโร เพื่อประโยชน์ 10 * 60 = 600 ยูโร
ส่วนต่างเข้ามาแทรกแซงในผลลัพธ์ของการตั้งค่าการค้า ด้วยสเปรด 0.8 ที่เสนอโดย Admirals ตำแหน่งของคุณจะมีมูลค่าที่
- 0.10 * 0.8 = 0.08 ยูโร ที่หักออกจากผลประโยชน์ 6 ยูโร คือ 5.92 ยูโร
- 1 * 0.8 = 0.8 ยูโร หักออกจากผลประโยชน์ 60 ยูโร คือ 59.2 ยูโร
- 10 * 0.8 = 8 ยูโร หักออกจากผลประโยชน์ 600 คือ 592 ยูโร
จากตัวอย่าง รายได้สุทธิจะไม่แตกต่างกันมากนักหลังจากซื้อขายกับ Admirals แน่นอน คุณสามารถตัดสินใจเสี่ยง 5 ยูโรหรือจำนวนอื่นขึ้นอยู่กับโปรไฟล์ เงินทุน และความเสี่ยงที่คุณรับได้ ซึ่งตัวอย่างนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีในการซื้อขายกับดัชนี DAX40
สรุป: ดัชนี DAX 40
DAX40 คือ ดัชนีที่ผันผวน แต่การซื้อขายนั้นให้ผลตอบแทนคุ้มค่ามาก เนื่องจากลักษณะ และความเชื่อมโยงระหว่างตลาด บ่อยครั้งคุณจะเห็นการเคลื่อนไหว DAX40 ที่ดีที่สุดระหว่างเซสชันใน New York มีปัญหา ‘ตามผู้นำ’ เนื่องจาก Dow มักจะติดตาม DAX40 ซึ่งในทางกลับกัน จะติดตาม FTSE จนกว่าตลาดหุ้นอเมริกาจะเปิดอย่างถูกต้องหลังอาหารกลางวัน
ที่มา : https://admiralmarkets.sc/th/education/articles/all-about-dax-trading/get-to-know-dax-40-index
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
การขายชอร์ต คืออะไร? พร้อมรู้จักกับกลยุทธ์ และ ช่วงเวลาที่กับการขายชอร์ต