ตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณ : ผู้ช่วยทำการซื้อขายของคุณ
Table of Contents
ตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณเป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ใช้ในตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค มันแสดงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมการซื้อขาย และระดับปริมาณในระดับราคาที่แตกต่างกันในช่วงเวลาที่กำหนด
คำนิยาม
ตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณคือการแสดงภาพกราฟิกของปริมาณการซื้อขายในระดับราคาต่าง ๆ ซึ่งช่วยทำให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์การกระจายของปริมาณ และระบุระดับราคาที่สำคัญจากกิจกรรมการซื้อขายที่สูงกว่า
การใช้งาน
นักเทรดใช้ตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณเพื่อทำความเข้าใจให้ดีขึ้นว่าจุดไหนมีแรงกดดันในการซื้อ และการขายกระจุกตัวอยู่ ด้วยการวิเคราะห์ปริมาณที่ระดับราคาต่าง ๆ นักเทรดสามารถระบุบริเวณของแนวรับ รวมถึงโอกาสของการเกิดราคาทะลุแนวรับ หรือแนวต้าน และพื้นที่ซึ่งราคาอาจรวมตัวกัน
แสดงโปรไฟล์
โดยทั่วไปโปรไฟล์ของปริมาณจะแสดงเป็นฮิสโตแกรม หรือชุดของกราฟแท่งในแนวนอนบนกราฟราคา แต่ละแท่งแสดงถึงปริมาณการซื้อขายในระดับราคาที่กำหนด ความยาวของแท่งแสดงถึงปริมาณการซื้อขายโดยแท่งที่ยาวกว่าบ่งบอกถึงกิจกรรมการซื้อขายที่สูงกว่า
องค์ประกอบที่สำคัญ
ตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณนั้นประกอบไปด้วยสององค์ประกอบหลัก ๆ คือ: ปริมาณ และราคา ปริมาณแสดงถึงจำนวนหุ้น สัญญา หรือล็อตที่มีการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด ในขณะที่ราคาแสดงระดับที่มีการซื้อขาย
ด้วยการวิเคราะห์โปรไฟล์ของปริมาณ นักเทรดจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด คือ:
- High Volume Nodes (HVN): ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด HVN มักทำหน้าที่เป็นแนวรับ หรือแนวต้านที่แข็งแกร่ง เนื่องจากบ่งชี้ถึงความสนใจของนักเทรดที่เห็นได้ชัดเจน
- Low Volume Nodes (LVN): ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างต่ำ LVN แสดงพื้นที่ที่ตลาดมีความสนใจน้อย หากราคาเคลื่อนที่ผ่าน LVN ก็อาจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วซึ่งบ่งชี้ว่ามีแนวต้านน้อยลง
- Point of Control (POC): นี่คือระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดภายในระยะเวลาที่กำหนด POC ถือเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญเนื่องจากแสดงถึงระดับราคาที่กิจกรรมการซื้อขายส่วนใหญ่เกิดขึ้น
- Value Area (VA): ช่วงของระดับราคาที่มีการซื้อขายเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ระบุของปริมาณทั้งหมด ค่าทั่วไปที่ใช้สำหรับเปอร์เซ็นต์นี้คือ 70% และ 80% พื้นที่ของมูลค่าช่วยทำให้นักเทรดสามารถระบุได้ว่ากิจกรรมการซื้อขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ไหน
- Value Area High (VAH): ระดับราคาสูงสุดภายในพื้นที่ของมูลค่า (VA)
- Value Area Low (VAL): ระดับราคาต่ำสุดภายในพื้นที่ของมูลค่า (VA)
-ฉันสามารถใช้โปรไฟล์ของปริมาณเพื่อทำการซื้อขายฟอเร็กซ์ได้หรือไม่ หากไม่มีปริมาณการซื้อขายจริง?
นั่นเป็นคำถามที่ดีมาก เนื่องจากฟอเร็กซ์ไม่มีสถานที่ซื้อขายแบบรวมศูนย์เหมือนกับ CME จึงไม่มีข้อมูลปริมาณการซื้อขายจริง ปริมาณที่คุณเห็นในเทอร์มินัล MT4 และ MT5 คือปริมาณ tick ความแตกต่างระหว่างปริมาณจริง และปริมาณ Tick ก็คือปริมาณจริงจะแสดงจำนวนสัญญาที่ซื้อขาย ล็อต หรือหุ้นในระดับราคาที่แน่นอนในช่วงเวลาหนึ่ง ปริมาณ Tick แสดงผลรวมของ Tick ในระดับราคาหนึ่ง ณ เวลาหนึ่ง
แน่นอนว่าควรวิเคราะห์ปริมาณจริงจะดีกว่าเนื่องจากข้อมูลมีความถูกต้องมากกว่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะใช้ปริมาณ Tick ไม่ได้ หากคุณวิเคราะห์ปริมาณจริง และปริมาณ Tick มากกว่า 90% จะมีปริมาณสูงสุดเหมือนเดิม ณ เวลานั้น ดังนั้น ปริมาณ Tick จึงเป็นการแสดงปริมาณที่ค่อนข้างแม่นยำ แม้ว่าจะมีความเบี่ยงเบนเล็กน้อยก็ตาม
และควรเข้าใจว่ายิ่งมีกรอบเวลาที่เก่าากขึ้น ความเบี่ยงเบนระหว่างปริมาณจริง และปริมาณ tick ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการใช้โปรไฟล์ปริมาณในกรอบเวลาระหว่างวันจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัญหานี้จะหายไปเอง
วิธีการใช้คุณสมบัติตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณ
โปรไฟล์ของปริมาณจะมีผลเมื่อใช้:
- โปรไฟล์ของปริมาณในวันนั้น
- โปรไฟล์ของปริมาณในสัปดาห์นั้น
- โปรไฟล์ของปริมาณในเดือนนั้น
- โปรไฟล์ของปริมาณของการสะสมแบบคงที่
- โปรไฟล์ของปริมาณจากคลื่นการซื้อขาย
ตัวอย่าง
สามารถใช้ตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณได้ฟรีสำหรับทั้งแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ แม้ว่าตัวบ่งชี้โปรไฟล์ของปริมาณจะสามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าได้ แต่ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค และตัวบ่งชี้อื่น ๆ เพื่อการวิเคราะห์ตลาดที่ครอบคลุม นักเทรดมักจะรวมมันเข้ากับตัวชี้วัดตามราคา เส้นของเทรนด์ และรูปแบบทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขายด้วยการใช้ข้อมูล